รายการหลัก
เข้าสู่ระบบ



จำนวนผู้เข้าชมปัจจุบัน
เรามี 6 บุคคลทั่วไป ออนไลน์
สถิติผู้เข้าชม
mod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_counter
mod_vvisit_counterวันนี้17
mod_vvisit_counterเมื่อวานนี้38
mod_vvisit_counterสัปดาห์นี้17
mod_vvisit_counterสัปดาห์ที่แล้ว433
mod_vvisit_counterเดือนนี้629
mod_vvisit_counterเดือนที่แล้ว2115
mod_vvisit_counterทั้งหมด15769

20 นาทีที่ผ่านมา 2
IP ของคุณ 204.236.226.210
,
วันที่: 11-เมษายน-2010 13:11:46

เปิดแล้วสำนักปฏิบัติธรรมทั่วถิ่นบนเว็บ

สมาธิแผ่เมตตาว่าดีแน่  แต่ไม่แก้อนุสัยก็ไร้ผล

อนุสัยจะพาให้เราอับจน  อยู่อย่างคนไร้สวรรค์ไม่ยาวนาน

อันมนุษย์เขาว่าสุดประเสริฐ  จะเตลิดลงนรกไปใยเล่า

เผาอนุสัยให้สิ้นในจิตเรา  เราจะได้อยู่สวรรค์นิรันดร์เอย

โดย  ธนวัฒน์  สวัสดิ์แก้ว

 หากท่านใดสนใจ ก็ ไป ปฏิบัติได้ใน irc.webmaster.com #ธรรมมะ ขอบคุณครับ

ทางเข้า 
เว็บบอร์ด  ทางเข้า  แชทรูม

Update  พร้อมเปิดฟังเสียงบรรยายเรื่องปฏิจจสมุปบาท

ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่สุดยิ่งกว่าการปฏิบัติธรรมได้แล้วที่  เสียงปฏิจจสมุปบาท

แก้ไขล่าสุด ( วันจันทร์ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 14:37 น. )

 

วันนี้มี  2 เรื่อง  คือ

1.  อำนาจหลักกับอำนาจแฝง
2.  การได้มาและการเสียไปในโลกจริงแห่งจิตกับโลกสมมุติแห่งชีวิตย่อมขัดแย้งกัน

พบกับระบบเสียงได้แล้วที่ นี่เลยครับ  มีให้ฟัง 46 เรื่อง  จะทยอยอัดเพิ่มไปเรื่อย ๆ

แก้ไขล่าสุด ( วันอาทิตย์ที่ 11 เมษายน 2010 เวลา 12:08 น. )

 

exness-th.com วิธีการอ่านบทความในเว็บ  เพื่อประโยชน์สูงสุดในการอ่าน  ให้ผู้อ่านเริ่มอ่านจาก  เรื่องที่  เกี่ยวกับสมาธิ  รวมทั้งหัวข้อย่อยให้หมดเสียก่อน  หรือไม่หากไม่มีเวลามากนัก  ให้คลิกฟังเสียงบรรยายเหนือสถิติผู้เข้าชม  ตรง  เสียง  MP3 มี 5 เมนูย่อย  โดยเริ่มจาก อนุสัยต่อด้วยสันดานจนจบทั้ง 5  ตอน  หากผู้อ่านได้อ่านและหรือได้ฟังในสิ่งที่ผู้เขียนได้บรรยายไว้ด้วยความตั้งใจ  และมีความอดทนขยันหมั่นเพียรยิ่ง  ผู้เขียนมีความมั่นใจว่าผู้อ่านจะสามารถปฏิบัติจนสามารถเห็นผลจากการปฏิบัติอย่างที่ผู้เขียนได้ประสบกับตนเองมาแล้ว

สมาชิกท่านใดมีข้อสงสัยหรืออยากมีส่วนร่วมในการนำเสนอหัวข้อบน https://www.exness-th.com webside ให้ email มาที่
อีเมลนี้จะถูกป้องกันจากสแปมบอท แต่คุณต้องเปิดการใช้งานจาวาสคริปก่อน     หากหัวข้อใดถูกนำเสนอขึ้น webpage สมาชิกผู้นั้นจะได้รับการจารึกชื่อไว้ที่หน้า webpage นั้น  เช่นนำเสนอโดย  กิ่ง deksang  เป็นต้น

เพื่อประโยชน์ของผู้ศึกษาธรรมให้ได้ผลจากการปฏิบัติอย่างแท้จริง  ควรเริ่มอ่านจากหัวข้อ การทำสมาธิ  ทุกหัวข้อย่อยอย่างละเอียดจนครบทุกหัวข้อให้เข้าใจอย่างถ่องแท้  จึงลงมือปฏิบัติ  แล้วจึงมาพิจารณาว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราเป็นเช่นนั้นหรือไม่มากน้อยอย่างไร  เพียงใด

บทความทุกบทความที่ปรากฏอยู่  ผู้อ่านจำเป็นต้องทบทวนสิ่งที่ได้อ่านมาแล้ว  เพราะบทความบทหนึ่งที่ผมได้เขียนไว้  จะอาศัยใช้ความรู้เดิมจากบทความก่อนหน้ามาอ้างอิงเสมอไม่มากก็น้อย  หากไม่นำความรู้เดิมมาอ้างอิงอาจทำให้ผู้อ่านไม่เข้าใจในสิ่งที่เขียนไว้อย่างละเอียดลึกซึ้งได้  อ่านแล้วคิดตาม  อ่านแล้วอ่านอีกหลาย ๆ  รอบจะได้เข้าใจดียิ่งขึ้น  ซึ่งลักษณะเช่นนี้ก็มีปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกด้วย  เช่น  อุเบกขาที่ปรากฏในเรื่องรูปฌาณ  ก็คืออุเบกขาความเดียวกันทุกประการนี้ไปปรากฏอยู่ในพรหมวิหาร 4  ด้วย  เมื่อผู้เขียนใช้วิธีการและกระบวนการศึกษาธรรมะเช่นเดียวกับวิธีการทีพระพุทธองค์ทรงใช้ในครั้งพุทธกาล  สิ่งที่ผู้เขียนรู้เห็นจึงมีลักษณะเช่นเดียวกับสิ่งที่พระพุทธองค์ท่านรู้เห็นด้วย  ต่างกันที่กาลเวลาที่รู้เห็นเท่านั้น 

สามารถสมัครเป็นสมาชิกได้โดยคลิกที่  ลงทะเบียน  https://exness-th.com ได้นะครับ   สามารถใช้ Username ทั้งในบทความและใน  webboard  ได้อย่างสมบูรณ์  จะลงทะเบียนหรือ  Login  จากส่วนใดก็ได้นะครับ 

แก้ไขล่าสุด ( วันพฤหัสบดีที่ 08 ตุลาคม 2009 เวลา 08:06 น. )

 

วันจันทร์  -  ศุกร์  19.30 น.  -  เวลาเข้านอน  ยกเว้นไปทำภารกิจนอกบ้าน  หรือไปต่างจังหวัด  จะแจ้งให้ทราบหน้าห้อง  แล้วจะขึ้นหมายเหตุไว้ทีคอลัมน์นนี้

เสาร์ -  อาทิตย์  เป็นเวลาพักผ่อน  แต่อาจจะแวบเข้าไปบ้าง  หากมีเวลาว่าง  เนื่องจากวันเสาร์ - อาทิตย์จะเป็นที่ไปบรรยายธรรมนอกสถานที่  จึงควบคุมเวลาไม่ได้  จึงได้เวลานี้เป็นเวลาพักผ่อนไปในตัว  จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

ทั้งนี้ขึ้นกับสถานการณ์และความเหมาะสม  อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงบ้าง

แก้ไขล่าสุด ( วันศุกร์ที่ 18 กันยายน 2009 เวลา 19:20 น. )

 

สำนักปฏิบัติธรรมทั่วถิ่นนี้  เป็นสำนักที่ไร้อาคารสถานที่เป็นหลักแหล่ง  เน้นการใช้เครื่องมือสื่อสารทุกรูปแบบเท่าที่มี  ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์  อินเตอร์เน็ต  webside  IRC  ดังนั้น #ธรรมะ  ใน irc.webmaster.com เป็นส่วนหนึ่งของสำนักด้วย

ทั้งนี้ผู้ที่สนใจอยากมีส่วนร่วมในการนำเสนอหัวข้อใน website ให้ส่งหัวข้อที่คุณสนใจจะให้นำเสนอมาที่  '   เมื่อเราได้รับ email จากคุณแล้วจะตอบกลับ email นั้นหากพิจารณาแล้วว่าหัวข้อที่นำเสนอนั้น  มีสาระอันเป็นประโยชน์นำไปสู่ความพ้นทุกข์ของคนในสังคม  ให้แจ้งชื่อผู้นำเสนอมาด้วย  จะชื่อเล่น  หรือชื่อใด ๆ  ก็ได้ที่ใช้เรียกตนเอง  เพื่อได้นำชื่อของคุณลงท้ายบทความที่ผมจะเป็นผู้เขียน  ไว้ท้ายบทความนั้นว่า 
นำเสนอโดย...... 


website  แห่งนี้  เน้นความสนใจจากผู้สนใจหรือผู้ใคร่ที่จะใฝ่รู้ธรรมะเป็นศูนย์กลาง  โดยที่ผมจะนำเสนอบทความที่จำเป็นเพื่อนำไปสู่การพ้นทุกข์อย่างแท้จริง  ทั้งในขณะปัจจุบันและอนาคตหลังความตายเท่านั้น  ที่เหลือแล้วอยากให้เป็นหัวข้อส่วนใหญ่จะมาจากผู้สนใจตั้งหัวข้อเรื่องเป็นหลัก

 

แก้ไขล่าสุด ( วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน 2009 เวลา 15:30 น. )

 

เริ่มจากให้พิจารณาความพร้อมในตนก่อน  หากตนเองมีความฟุ้งซ่านหรือมีความแส่ส่ายทางความคิดมาก  ให้เริ่มต้นด้วยการสูดลมหายใจเข้าออกให้ลึก ๆ  อย่างช้า ๆ  หายใจเข้าออกให้เต็มปอดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วผ่อนลมหายใจอย่างช้า ๆ  จนหมดลม  แล้วให้สูดลมหายใจเข้าไปใหม่  แล้วปล่อยลมหายใจออกจนกระทั่งความคิดทั้งหมดรวมศูนย์อยู่ที่ลมหายใจ  แล้วให้ปล่อยลมหายใจเข้าออกนั้นให้เป็นไปตามธรรมชาติแล้วให้เฝ้าสังเกตลักษณะของลมหายใจเข้าออก  การติดตามลมหายใจเข้าออกนี้จะเรียกว่าการทำอาณาปานสติ

แล้วให้เราค่อย ๆ  นึกสำรวจการกระทำต่าง ๆ  ว่าในแต่ละวันได้ทำอะไรไปบ้างแล้วพยายามนึกย้อนไปถึงการกระทำในอดีตให้ได้มากที่สุดโดยไม่เข้าข้างตนเอง  แล้วพิจารณาว่าเราทำสิ่งใดไปด้วยพฤติกรรมใดบ้าง  เช่นเมื่อวานทะเลาะกับเพื่อนเพราะความเห็นแก่ตัว  สมัยเด็กชอบรังแกสัตว์เพราะความอยาก  ตอนทำงานไปโกงเงินบริษัทเพราะความโลภ  ฯลฯ  ให้พิจารณาตนเองในลักษณะนี้  แล้วให้ยอมรับในความจริงที่ตนเองทำไปให้ได้ทุกเรื่อง  จากนั้นจะเกิดแรงบีบคั้นขึ้นมาในจิตใจ  โดยผู้มีคุณธรรมมากจะเกิดแรงบีบคั้นทางจิตใจน้อย  แล้วคนที่มีคุณธรรมน้อยจะเกิดแรงบีบคั้นทางจิตใจมาก  ให้ยอมรับแล้วจำทนต่อแรงบีบคั้นที่เกิดขึ้นให้ในจิตใจได้  พยายามเปลี่ยนความรู้สึกจากความจำทนให้เป็นการยอมทนแล้วยอมรับเพื่อฟั่นฝ่าเพื่อเอาชนะแรงบีบคั้นทางจิตใจที่เกิดขึ้นนี้ให้ได้  ด้วยการค่อย ๆ  ขจัดเหตุที่ทำให้ตนเป็นทุกข์นี้ให้ค่อย ๆ  หลุดออกจากตนไปให้ได้  ถ้ามีโลภ  โกรธ หลง  ฯลฯ  มีในตนอย่างไรให้เห็นแล้วยอมรับอย่างนั้นแล้วค่อย ๆ  นึกขจัดออกเหมือนค่อย ๆ  เก็บขยะหรือกำจัดขยะให้ค่อย ๆ  พ้นไปจากบ้านจนหมด  ความสงบจะค่อย ๆ  เข้ามาแทนที่ความหงุดหงิดฟุ้งซ่านทีละเล็กทีละน้อย  จนกระทั่งความหงุดหงิดฟุ้งซ่านหมดสิ้นแล้วจะเข้าถึงความสงบลุ่มลึกซึ่งเป็นผลเบื้องต้นที่เราได้รับ

เมื่อเข้าถึงสภาวะนี้แล้วให้เราตั้งจิตอธิษฐานว่า  "ขอแผ่เมตตาให้สรรพจิตสรรพวิญญาณให้ขึ้นสู่สุคติ  และแผ่เมตตาให้สรรพชีวิตรวมทั้งมนุษย์ให้มีความสุขความเจริญ  กุศลที่ได้อุทิศให้สรรพจิตสรรพชีวิต"  แผ่เมตตาไปสักระยะหนึ่งจะเริ่มมีความรู้สึกหงุดหงิดฟุ้งซ่าน  แต่ถ้าเราไม่สนใจความหงุดหงิดฟุ้งซ่านที่เริ่มเกิดขึ้น  ความหงุดหงิดฟุ้งซ่านนั้นจะเพิ่มความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อย ๆ  เพราะการแผ่เมตตาเป็นสมาถะ  สมาถะเมื่อทำแล้วจะไปกระตุ้นให้อนุสัยซึ่งฝังแน่นในจิตและสันดานที่ฝังแน่นในสมองผุดขึ้นมาก่อให้เกิดความไม่สงบฟุ้งซ่านขึ้นมาอีก  ให้ย้อนกลับไปสำรวจตนเองใหม่อีกรอบ  การทำสมาธิหนึ่งรอบประกอบด้วยการสำรวจตนเองแล้วขจัดข้อบกพร่องที่ไม่ดีออกจนค่อย ๆ  หมดสิ้นไปต่อด้วยการแผ่เมตตาเสมอ  หากทำอย่างใดอย่างหนึ่งจะไม่ถือว่าเป็นการกระทำสมาธิที่สมบูรณ์  หากเราสำรวจตนเองจนสามารถขจัดข้อบกพร่องที่ไม่ดีออกไปได้แล้วไม่แผ่เมตตา  นายเวรที่เราไปละเมิดเขาเอาไวจะนำอนุสัยนายเวรของตนมาติดที่เราได้อีก  หากแผ่เมตตาอย่างเดียวโดยไม่สำรวจพิจารณาหาข้อบกพร่องที่ตนมีแล้วขจัดออกให้ค่อย ๆ  หมดสิ้นก่อนการแผ่เมตตาจะทำให้จิตนอกจากจะไม่บริสุทธิ์แล้ว  จะเป็นการซ้ำเติมก่อให้เกิดอนุสัยในจิตมากขึ้น  แล้วส่งผลให้สันดานที่ไม่ดีเพิ่มมากขึ้นตามอนุสัยในจิตด้วย 

หากผู้ใดไม่อาจทำสมาธิให้เกิดผลหรือทนต่อแรงบีบคั้นทางจิตใจตามที่ผู้เขียนอธิบายมาแล้วไม่ได้  ให้อธิษฐานจิตนึกถึงผู้เขียนแล้วขอให้ผู้เขียนช่วยใน 2  เรื่องนี้ได้ทันที  1.  การขจัดข้อบกพร่องที่แต่ละคนได้พบเจอ  2.  กุศลไม่เพียงพอที่จะทำให้นายเวรอโหสิกรรมได้  แล้วขอให้ช่วยได้เพียง 2  เรื่องในเบื้องต้นเท่านั้น  ไม่อาจขอในเรื่องอื่นซึ่งไม่เกียวข้องได้  อย่างไรก็ดีเมื่อเราทั้งหลายสามารถทนต่อแรงบีบคั้นได้มากขึ้นแล้ว  ให้เราทั้งหลายค่อย ๆ  ลดการพึ่งพาผู้เขียนลงทีละน้อย ๆ  แล้วพึ่งตนเองให้มากขึ้น  ในที่สุดทุกคนก็จะสามารถพึ่งตนเองได้  ไม่ว่าอาการที่เกิดขึ้นจะเป็นความรู้สึกทางกายหรือความรู้สึกทางใจก็ตาม  หากปฏิบัติถูกต้อง  เมื่อระยะเวลาผ่านไป  แรงบีบคั้นในจิตใจที่จะเกิดขึ้นจะค่อย ๆ  น้อยลง  ความเจ็บป่วยทางกายจะค่อย ๆ  น้อยลงไปด้วย  ตามกาลเวลาที่ผ่านไปจากวันเป็นเดือน  จากเดือนเป็นปี  แล้วต่อไปเรื่อย ๆ  เป็นปี ๆ  แรงบีบคั้นในจิตใจจะหมดลงแล้วถ้าจะเกิดขึ้นมาอีกจะน้อยมาก  ความเจ็บป่วยทางกายหากยังหลงเหลืออยู่ก็จะมีน้อยถึงน้อยมาก  แล้วความสุขอันแท้จริงจะเกิดขึ้น  ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จแล้วเห็นผลจากการปฏิบัติเพื่อนำไปสู่การพ้นทุกข์อย่างถาวรในเร็ววัน

แก้ไขล่าสุด ( วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 14:16 น. )

 

<< เริ่มแรก < ย้อนกลับ 1 2 ถัดไป > สุดท้าย >>

หน้า 1 จาก 2

Custom Search